คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคปัจจุบัน การกู้ยืมผ่านธนาคารต่างๆ นั้น เป็นเรื่องจำเป็นต่อบุคคลในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจ หรือการใช้จ่ายส่วนบุคคล การยื่นขอสินเชื่อจากธนาคารจึงเป็นเรื่องที่มีความละเอียดในขั้นตอนเพื่อการอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร ซึ่งหลายคนก็คงอยากทราบว่าเมื่อยื่นขอสินเชื่อไปแล้วจะได้รับอนุมัติหรือไม่ และจะทำอย่างไรเพื่อที่จะสามารถติดตามเช็คผลการอนุมัติสินเชื่อได้ด้วยตัวเอง

ดังนั้นการติดตามเช็คผลอนุมัติสินเชื่อจึงเป็นขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญซึ่งหลายคนคงอยากทราบว่าจะสามารถติดต่อสอบถามในช่องทางใดได้บ้าง จึงขอนำวิธีการตรวจเช็คผลการขอยื่นสินเชื่อมาช่วยให้คุณได้ทราบขั้นตอนว่าเป็นอย่างไร

เมื่อธนาคารได้รับใบสมัครการขอสินเชื่อของคุณแล้วก็จะส่งเข้าระบบการขออนุมัติการขอสินเชื่อของธนาคาร ซึ่งก็จะตรวจสอบเอกสารประกอบการขอสินเชื่อว่าครบถ้วนหรือไม่ หากยังไม่ครบทางธนาคารก็จะมีการขอเอกสารประกอบเพื่อให้ครบถ้วน เมื่อเอกสารครบแล้วก็จะไปสู่ขั้นตอนของการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคารต่อไป ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณา จะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับระเบียบขั้นตอนของธนาคารนั้นๆ ที่คุณได้ขอยื่นไป ระยะเวลาในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของแต่ละธนาคารก็จะแตกต่างกันไป บางธนาคารอาจจะสามารถทราบผลภายใน 1 วันนับจากสมัครและยื่นเอกสารครบ หรือบางธนาคารอาจใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 1 ถึง 2 สัปดาห์  หรืออาจนานกว่านั้นก็ขึ้นอยู่กับนโยบายการพิจารณาและขั้นตอนระบบงานของแต่ละธนาคารว่าจะมีความรวดเร็วเพียงใดในการอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งคุณสามารถสอบถามกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารได้โดยตรงว่า ธนาคารจะใช้ระยะเวลาของการพิจารณานานเพียงใดในการที่จะทราบผลการอนุมัติ เพื่อที่คุณจะได้ทราบว่าจะต้องติดตามเช็คผลได้เมื่อใด

สำหรับวิธีที่คุณจะสามารถติดตามผลได้ด้วยตัวเองหลังจากที่ยื่นขอสินเชื่อแล้ว โดยวิธีการติดตามเช็คผลการสมัครสินเชื่อเมื่อยื่นเอกสารเรียบร้อยนั้น สามารถติดต่อสอบถามเพื่อติดตามได้หลายช่องทางของธนาคารที่คุณได้ยื่นกู้ไปโดยตรง ซึ่งทางธนาคารจะสอบถามข้อมูลของคุณในเบื้องต้นจากนั้นก็จะให้ข้อมูลผลการพิจารณาการขออนุมัติสินเชื่อกับคุณ โดยช่องทางติดต่อสอบถามผล มีดังนี้

  1. โทรศัพท์สอบถามไปยังศูนย์บริการลูกค้า call center ของธนาคารที่คุณขอสมัครสินเชื่อ
  2. สอบถามจากสาขาธนาคารที่ทำการสมัครขอสินเชื่อ
  3. สอบถามจากเจ้าหน้าที่ที่คุณสมัครขอสินเชื่อไป
  4. สอบถามข้อมูลจากเว็บไซต์ของธนาคารที่คุณสมัครขอสินเชื่อไป
  5. สอบถามผ่าน Mobile Application หรือช่องทางการออนไลน์ของธนาคารที่คุณสมัครขอสินเชื่อไป

เมื่อคุณได้ทราบผลการการอนุมัติวงเงินสินเชื่อแล้ว หากทางธนาคารอนุมัติวงเงินสินเชื่อให้กับคุณ ก็จะแจ้งให้ทราบว่าคุณได้รับวงเงินสินเชื่อจำนวนเท่าใด รวมทั้งจำนวนเงินและระยะเวลาในการผ่อนชำระให้คุณได้ทราบเพื่อให้คุณสามารถวางแผนการผ่อนชำระได้ถูกต้อง และหากคุณต้องการรับเงินที่ทางธนาคารอนุมัติให้แล้ว ธนาคารก็จะโอนเงินมาให้ผ่านบัญชีของธนาคารที่คุณได้แจ้งไว้ต่อไป แต่ถ้าคุณไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อที่คุณได้ขอไป ทางธนาคารก็จะมีจดหมาย หรือมีการแจ้งผลด้วยวิธีการอื่นๆ อย่างเป็นทางการตามที่คุณได้แจ้งกับธนาคารไว้แล้วเมื่อตอนยื่นขอสินเชื่อ เพื่อให้คุณได้ทราบว่าคุณไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อที่คุณได้ยื่นขอไป ซึ่งการยื่นขอสินเชื่อนี้ หากธนาคารที่คุณขอยื่นไปไม่ผ่านการอนุมัติ ก็ไม่ใช่ว่าจะหมดหวังเสียทีเดียวกับธนาคารอื่นๆ เพราะหากธนาคารนี้ไม่ได้ คุณก็อาจจะได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารอื่นๆ ก็เป็นได้ เพราะแต่ละธนาคารจะมีนโยบายการอนุมัติสินเชื่อที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับธนาคารนั้นๆ ว่ามีนโยบายอย่างไร หรือหากยังต้องการยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารเดิมอีกครั้ง ก็ทิ้งระยะเวลาไปสักระยะหนึ่งจึงค่อยขอยื่นใหม่ ซึ่งสามารถสอบถามได้กับเจ้าหน้าที่ของธนาคารโดยตรง และเพื่อให้คุณได้วางแผนต่อไปด้วยว่าจะทำอย่างไรให้ผ่านการอนุมัติสินเชื่อในครั้งต่อไป

ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการตรวจเช็คและติดตามเช็คผลการอนุมัติขอสินเชื่อ คุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง หากต้องการทราบอย่างรวดเร็ว หรือหากเห็นว่าทางธนาคารยังไม่ติดต่อแจ้งผลให้ทราบ เพื่อคุณจะได้วางแผนการเงินของคุณได้อย่างถูกต้อง ถือเป็นการรักษาผลประโยชน์ของคุณเอง ซึ่งในวิธีการที่ได้อธิบายไปก็ไม่ใช่เป็นเรื่องยุ่งยากหรือซับซ้อนแต่อย่างใด โดยเฉพาะปัจจุบันมีการสื่อสารเทคโนโลยีที่ง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น ยิ่งทำให้การสอบถามหรือติดตามเช็คผลการอนุมัติสินเชื่อสามารถทำได้ง่ายยิ่งขึ้น และสะดวกยิ่งขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตามเมื่อได้คุณได้รับวงเงินสินเชื่อแล้ว คุณควรวางแผนการใช้จ่ายเงินและการผ่อนชำระเงินอย่างดีด้วย เพื่อที่จะได้สามารถดำเนินธุรกิจหรือการใช้จ่ายต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง และจะได้ไม่ต้องมาเกิดความเครียดในภายหลังว่าไม่สามารถหมุนเงินมาผ่อนชำระได้ทันกำหนดเวลา หรือไม่สามารถหาเงินมาผ่อนชำระได้ เพราะจะมีผลต่อการอนุมัติสินเชื่อในอนาคต หากคุณยังต้องการยื่นสมัครขอสินเชื่อเพิ่มขึ้นต่อไป เพื่อขยายธุรกิจ หรือจะเพื่อใช้จ่ายส่วนตัวก็ตาม ซึ่งหากคุณผ่อนชำระเงินกู้ได้ตามกำหนดระยะเวลาทุกครั้ง ธนาคารก็จะมีให้ระดับคะแนนเครดิตบูโรอยู่ในระดับที่ดีเยี่ยม ซึ่งจะมีผลให้คุณได้รับการอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายในครั้งต่อไปด้วย ในทางตรงข้ามหากคุณไม่สามารถผ่อนชำระได้ตามกำหนดเวลาหรือไม่มีเงินมาผ่อนชำระได้ ธนาคารก็จะขึ้นแบล็กลิสต์ไว้หรือได้คะแนนจากเครดิตบูโรในระดับต่ำซึ่งอาจทำให้คุณไม่สามารถยื่นขอสินเชื่อได้อีกต่อไป หรือการอนุมัติขอสินเชื่อยากขึ้น